วิธีเลือกซื้อธีมจาก Themeforest ลิขสิทธิ์แท้ไม่ต้องกลัวโดน Hack
วิธีเลือกซื้อธีมจาก Themeforest ลิขสิทธิ์แท้ไม่ต้องกลัวโดน Hack
🤩 ปัจจุบันปี 2021 การสร้างเว็บไซต์แทบจะเป็นเรื่องง่ายไปแล้ว แค่คุณเตรียมโดเมน เชื่อมกับโฮสติ้ง และใช้ WordPress ที่เป็นแพลตฟอร์มในการบริหารเว็บไซต์สำเร็จรูป (Content Management System : CMS) คุณสามารถเนรมิตเว็บไซต์แบบออนไลน์ภายใน 10 นาที เพียงคุณใช้ WordPress และใช้ฟังก์ชั่นในส่วนของธีม คุณก็สามารถอัพเกรดของคุณไม่ได้อีกระดับแบบฟรีๆ แต่หากคุณต้องการความ Advance ของเว็บหรือธีม ก็มีผู้พัฒนาธีมออกมาขายมากมายหรือที่รู้จักกันดีคือเว็บ Themeforest เมื่อคุณซื้อธีม WordPress จากที่นี่คุณจะสบายใจได้เลยว่าธีมที่ซื้อนั้นไม่โดนฝัง Code ที่เป็นอันตรายกับเว็บให้ต้องมานั่งปวดหัวแน่นอน เนื่องจากผู้ที่พัฒนาธีมมาขายที่นี่นั้นต้องผ่านมาตรฐาน และการตรวจสอบ Code จากทีมงานThemeforest เสียก่อนถึงจะลงขายได้
Themeforest คืออะไร
ThemeForest เปิดตัวเมื่อปี 2008 ขายธีมสำเร็จรูป CMS ยอดนิยมอย่าง WordPress โดยเป็นเหมือน Marketplace ให้ผู้ที่สนใจพัฒนาธีม WordPress จากภายนอกมามาลงขายธีมอยู่เรื่อยๆ จนตอนนี้มีธีมเวิร์ดเพลสที่สวยๆ จนล้นตลาด ลงขายอยู่ในเว็บ ThemeForest มากกว่า 10,000 ธีม เยอะแยะเต็มไปหมดให้ผู้ที่สนใจเวิร์ดเพลสได้เลือกซื้อ นอกจากนี้ ThemeForest ยังได้แตก Product ย่อยๆ มาอีกมากมายเช่น Code Canyon เป็นแหล่งรวมปลั๊กอิน และสคริปต่างๆ ให้ผู้ที่สนใจเลือกซื้อ หรือลงขาย , Graphicriver ที่เน้นให้ลงขายเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับ กราฟิก
ซึ่งการที่การที่จะลงขายธีม WordPress ใน ThemeForest ไม่ใช่อยู่ๆ จะขายได้เลย โดยเว็บจะมีมาตรฐานในเรื่องของ แต่ขอบอกก่อนว่ามันก็มีมาตรฐานของมันอยู่ ไม่ใช่ว่าจะเขียนโค๊ดมามั่ว ๆ แล้วจะขายลงขายได้เลยโดนตีกลับแน่นอน และต้องมีการ Support ผู้ซื้อด้วย(จะมีระยะเวลาซัพพอร์ตมาตรฐานอยู่) ราคาที่ขายอยู่ประมาณมาณ 59 เหรียญ ถือว่าราคาเป็นมาตรฐานทั่วไป
คุณ Peerapong คนไทยคนแรกที่มียอดขายธีม WordPress ใน Themeforest มากกว่า 300 ล้านบาทไปแล้ว ดูธีมทั้งหมดของได้ที่ bit.ly/3zYn0FP
วิธีเลือกซื้อ Theme WordPress ใน Themeforest
1. หาหมวดหมู่ธีม WordPress เราสนใจ
ให้เข้ามาหน้านี้ https://bit.ly/3w0buqh
เลือกดูหมวดหมู่เลยว่าเราสนใจที่จะทำเว็บไซต์แบบไหนโดยจะมีหมวดหมู่หลักๆ ดังนี้
Corporate เป็นธีมสำหรับองค์กร บริษัท
Creative ธีมสำหรับแนว ครีเอทีฟ บริษัทเอเจนซี่ หรือพอร์ทฟอลิโอ ไว้โชว์ผลงาน
Blog Magazine ธีมประเภทบล็อกหรือแม็กกาซีน เช่น เว็บไซต์ข่าว, เว็บไซต์นิตยสาร แนวที่อัพเดทบทความในเว็บบ่อยๆ
eCommerce ธีมสำหรับคนทำเว็บไซต์ขายสินค้า eCommerce ส่วนใหญ่จะรองรับคนที่ใช้ปลั๊กอิน Woocommerce
Retail ธีมสำหรับร้านขายของ
Entertainment ธีมที่เน้นเพื่อการบันเทิง หรือจะทำพวกเว็บข่าวดาราก็ได้
Technology ธีมเน้นไปที่เทคโนโลยี ทันสมัย
Nonprofit ธีมสำหรับธุรกิจที่ไม่แสวงหาผลกำไร เช่น มูลนิธิ
Education ธีมแนวการศึกษา โรงเรียน มหาลัย
Real Estate ธีมสำหรับซัพพอร์ตธุรกิจเรียลเอสเตท อสังหาริมทรัพย์ ขายบ้าน
Wedding ธีมสำหรับจัดงานแต่งงาน, รับจัดงานแต่ง
BuddyPress ธีมที่ใช้สำหรับเว็บมือถือ ทำแอพ หรืออื่นๆ
Mobile ธีมที่ใช้สำหรับเว็บมือถือ ทำแอพ หรืออื่นๆ
หลังจากได้ธีมที่มีความต้องตรงกับของคุณแล้ว ให้คุณกดปุ่มกรองด้านบนอีกที Best sellers ธีมไหนขายดี มีคนใช้เยอะ , Newest ธีมที่มาใหม่ , Best rated ธีมที่มีผู้ให้เรทดีๆ ,Trending ธีมที่กำลังเป็นที่นิยม ,Price ใช้กรองราคา เช่นมีงบ 30 จะสามารถซื้อธีมไหนได้บ้าง
2.ดูเรทติ้งของธีม เลือกเรทติ้งสูงๆ / ดูยอดขายทั้งหมด / เช็ควันที่อัพเดท / ดูคอมเม้นล่าสุด
Rating : ให้สังเกต rating ควรมีเรตติ้งที่ 4 ดาวขึ้นไป โดยเราจะเห็นว่ามีคนกดโหวตเรทติ้งที่จำนวน กากด และจำนวนเฉลี่ยเท่าไหร่ เลือกที่มี 4 หรือที่สูงที่สุด โดยธีมที่มีเรทติ้งสูงมี Avada , The7 , Flatsome หรือถ้าธีมที่อยากได้มีดาว หรือเรทติ้งน้อยอยู่ที่ 3-4 แต่เราอยากได้จริง ให้ลองพิจารณา ระดับของ ของผู้ขาย เช่น ระดับ Power elite author ถือว่าเป็นระดับสูงสุด มีความน่าเชื่อถือมาก ทำให้เรามั่นใจว่าซื้อไปแล้วจะไม่โดนลอยแพแน่นอน หรือมีการอัพเดทอยู่สม่ำเสมอ
Sale : ให้เช็คยอดขายทั้งหมด ถ้ามียอดขายเยอะย่อมเป็นการการันตีว่าธีมน่าจะมีจุดเด่น เช่น ติดตั้งง่าย ปรับเว็บไซต์ได้หลายรูปแบบ และมีเรื่องของ UX/UI ที่ดี รองรับเรื่องของ SEO เว็บมีการซัพพอร์ตรองรับอุปกรณ์ทุกอุปกรณ์ (Responsive)
Date : อย่าลืมเช็ควันที่อัพเดทธีม เนื่องจาก WordPress นั้นมีการอัพเดทอยู่ตลอดเวลา ทำให้ธีม หรือ ปลั๊กอินอาจจะมีปัญหา ผู้พัฒนาธีมหรือปลั๊กอินจะต้องอัพเดทตามไปด้วยเพื่อให้รองรับกับความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
Comment : การวิจารณ์ถือเป็นเสียงสะท้อน และการตอบรับต่อธีมนั่นว่าดี หรือไม่ดี ส่วนใหญ่ถ้าคนที่ซื้อธีมไปแล้วมีปัญหามักจะชอบมาโพสคอมเม้น เราสามารถพิจารณาคอมเม้นว่ามีปัญหา หรือเจอ Bug อะไรที่ผู้พัฒนาไม่ยอมแก้ เพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณาการสั่งซื้อ
3.ทดลองเล่น Demo / ดู Demo / วิดิโอการใช้งาน การติดตั้ง
เนื่องจากบางธีมมีการใช้งาน หรือติดตั้งที่ยาก ซับซ้อน ควรทดลองเล่น หรือดูการใช้งาน ให้ลองคลิ๊กที่ Live Preview
โดยดูลึกไปถึงหน้าที่มีทั้งหมดของธีม, การจัดตกแต่งของธีม, การแสดงหน้ามือถือ, การใช้งาน และการปรับแต่งธีมด้วย ว่ามีข้อปัญหาหรือข้อจำกัดอะไรบ้าง
แม้ว่าจะเสียเงินสั่งซื้อไปแล้วแต่หากไม่พอใจหรือใช้ไม่ได้ให้ดูที่
https://help.market.envato.com/hc/en-us/articles/202821460-Can-I-Get-A-Refund
ปกติแล้วจะสามารถขอเงินคืนได้ แต่ต้องอธิบายเหตุผล ว่าทำไมถึงต้องการขอ Refund กับทาง Envato ได้ โดยควรเป็นเหตุผลที่ Make sense จริงๆ เพื่อเป็นการแฟร์ๆกันทั้งสองฝ่าย ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย
ที่มา https://sgeprint.com/article/วิธีซื้อธีมจาก-themeforest/
Comments
Post a Comment