Skip to main content

กราฟฟิตี้ คืออะไร ศิลปะน่ารู้ชวนค้นหา


    กราฟฟิตี้ คืออะไร ศิลปะน่ารู้ชวนค้นหา

    วันนี้ขอพูดถึงบทความ ที่เราเรียกกันว่า Street Art หรือ Graffiti ส่วนใหญ่คงตีความไปถึงพวกป่วนบ้านป่วนเมือง พ่นกำแพงสร้างความสกปรกเลอะเทอะไปเรื่อย หารู้ไม่ว่าศิลปะแบบนี้ก็มีที่มา มีสไตล์และมีนิยามที่ชัดเจนของมันอยู่ ก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าใจก่อนว่า สตรีทอาร์ต กับ กราฟฟิตี้ มันมีเส้นบางๆ กั้นอยู่ ซึ่งมันไม่เหมือนกันนะคะ วันนี้ SGEPRINT ขอเป็นตัวแทนหมู่บ้าน ในการมอบเรื่องราวและความรู้สำหรับใครที่ยังสับสนว่า กราฟฟิตี้ คืออะไร 


    Graffiti หมายถึงอะไร?

    กราฟฟิตี้ หรือที่เรารู้จักกันว่าเป็นการพ่นกำแพง มาจากภาษากรีก ที่แปลว่า “การเขียน” มีต้นกำเนิดมาจากพวกฮิพฮอพในอเมริกา บูมขึ้นมาได้เพราะการพ่นชื่อตัวเองลงบนผนังรถไฟใต้ดิน ทำให้เป็นที่สนใจของคนทั่วไปที่มองเห็น และสุดท้ายแล้วจึงเหมือนเป็นประเพณีที่ทำต่อๆ กันมา ซึ่งปกติแล้วเนื้อหาจะเป็นการเสียดสีสังคม รุนแรง มาจากต้นกำเนิดที่เป็นชนผิวดำในยุคที่เหยียดสีผิวกันหนักหน่วงในอเมริกา ความคับแค้นใจนี้ถูกนำเสนอด้วยการพ่นกำแพง และจะไม่เปิดเผยตัวเอง แน่นอนว่าการพ่นกำแพงโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้นมีความผิด ปรับไม่เกิน 5000 บาท ตามพ.ร.บ. รักษาความสะอาดบ้านเมือง พ.ศ. 2535

    มีการให้คำนิยามรอยขูดขีดเขียนว่า “รอยขูดขีดเขียนถือเป็นวัฒนธรรมนอกกระแสที่เปรียบได้กับสัญลักษณ์ของความเป็น ขบถ ราวกับว่ามันก่อให้เกิดความรู้สึกเป็นสุข เมื่อยามที่ศิลปินรอยขูดขีดเขียนได้ท้าทายต่ออำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐที่พยายามกีดกันกำจัดรอยขูดขีดเขียนให้หมดไป” นอกจากนี้คำว่า graffitti มาจาก graffitto ในภาษาอิตาลี ที่แปลว่า รอยจารึก หรือ รอยขีดข่วน อาจกล่าวได้ว่ารอยขูดขีดเขียนถือกำเนิดขึ้นบนโลกมานานแล้ว 


    Graffiti กับ Street Art แตกต่างกันอย่างไร?

    Street Art เป็นศิลปะที่รวมทุกเทคนิคเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นเพ้นท์ ปั้น พ่น และสร้างผลงานไว้ในที่สาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นผนังตึก กำแพง และศิลปินส่วนใหญ่ก็คือศิลปินทั่วไปที่หันมาสร้างผลงานทางนี้ ไม่ต้องเป็น Street Artist เต็มตัวก็ได้ เนื้อหาก็จะซอฟท์ๆ เบาๆ กว่ากราฟฟิตี้หน่อย จะเน้นความสวยงามมากกว่าการเสียดสี หรืออาจจะสอดแทรกอยู่ในรูปก็แล้วแต่ศิลปิน การสร้างงานก็จะไม่ได้ผิดกฎอะไรเหมือนกราฟฟิตี้ เพราะส่วนใหญ่ก็จะขออนุญาตในสถานที่นั้นๆ 

    ดังนั้น กราฟฟิตี้ (Graffiti) กับ สตรีทอาร์ต (Street Art) มันก็จะไม่เหมือนกันซะทีเดียว แตกต่างทั้งจุดประสงค์ เนื้อหา และวิธีการสร้างงาน แต่เรื่องสกิลทีต้องใช้นั้นไม่ต่างกันเลย เพราะต้องทำงานแบบ Out Side เหมือนกัน อุปกรณ์ สถานที่ ความยิ่งใหญ่ของงานเป็นอีกอย่างที่พิสูจน์ศิลปินได้ดีว่าต้องมีความสามารถจริงๆ 


    ผลงานศิลปินจาก Graffiti ที่เราห็นกันบ่อยๆ

    ขอเริ่มต้นกับ ศิลปินชาวไทยในนามว่า MAMAFAKA หรือ “ตั้ม” กราฟิกดีไซเนอร์ชื่อดังในวงการผู้ล่วงลับ กับคาแรคเตอร์ที่ไม่เหมือนใคร และได้นำตัวการ์ตูนของตัวเองมาสร้างผลงานกราฟฟิตี้ให้คนทั่วไปได้เห็นกัน ผลงานที่เด่นๆ เลยก็คือคาแรคเตอร์บนผนังตึกร้างใกล้ BTS ราชเทวี ที่น่าจะคุ้นตาคนที่ต้องเดินทางแถวนั้นอยู่บ้าง เพราะนั่งรถก็เห็น ขึ้น BTS ก็ยิ่งเห็น (น่าเสียดายที่โดนทับไปแล้ว ไม่เหลือให้ได้ระลึกถึง)


    ขอยกตัวอย่างอีกหนึ่งท่าน คือ Banksy ศิลปินกราฟฟิตี้ชาวอังกฤษ ที่ตอนนี้ยังถกเถียงและมีข่าวลือกันไปมาว่า เขาคือใครกันแน่? แน่นอนว่าศิลปินกราฟฟิตี้เต็มตัวขนาดนี้ก็คงไม่ต้องการจะเปิดเผยตัว แต่เรามักจะเห็นผลงานเขาผ่านตาอยู่บ่อยๆ ด้วยเนื้อหาที่สะท้อนสังคม การเมือง แต่ถ่ายทอดออกมาแบบเข้าใจง่าย ใครมองก็เห็นความสวยงาม ยิ่งทำให้ผลงานเขา แพร่หลายจนโด่งดังในที่สุด ไม่ได้มีแค่ผลงานบนผนังเท่านั้น แต่ยังมีงานภายในที่จัดเป็นนิทรรศการด้วย


    ประโยชน์ของการทำ กราฟฟิตี้ หรือการวาดเขียน คืออะไร?

    1. สร้างชื่อให้ศิลปิน เราอาจจะไม่รู้ว่ามีศิลปินหลายคนทั่วโลก มีชื่อเสียงมาจากการพ่นชื่อตัวเองลงบนกำแพง การวาดรูปคาแรคเตอร์ที่ติดตาผู้คนสวยงาม

    2. เผยแพร่ศิลปะให้คนที่ไม่คิดจะเข้าหอศิลป์ ถ้าจะหวังให้คนเราเข้าหอศิลป์ไปเสพย์ผลงานกันทุกเดือนมันก็คงยากไปหน่อย (ของแบบนี้อยู่ที่รสนิยม ความชอบ และไลฟ์สไตล์ด้วย) การสร้าง Street Art เป็นอีกข้อหนึ่งที่มีประโยชน์มากในด้านนี้ นั่นคือทำให้ศิลปะได้ปรากฏสู่สายตาคนทั่วไปโดยที่เขาไม่ต้องเดินเข้าหอศิลป์ก็ได้ เหมือนเป็นการสร้างความคุ้นเคยของคนทั่วไปกับศิลปะ ให้เห็นว่ามันไม่ได้เข้าใจยาก และไม่ได้อยู่ห่างไกลเราขนาดนั้น เป็นอีกอย่างที่ช่วยปลูกฝังศิลปะให้ซึมซับเข้าไปในชีวิตและความคิดของคนทั่วไปได้

    3. ทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ได้ สมัยนี้คนเราเจออะไรก็ถ่ายรูปเป็นนิสัย แต่ละสถานที่ท่องเที่ยวย่อมหาแลนด์มาร์ค จุดเด่นของตัวเองให้แตกต่างจากที่อื่น Street Art เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ตอนนี้นิยมมากๆ เราจะเห็นได้ทั่วไปไม่ว่าจะเป็นรูปวาดบนผนัง หรือการนำประติมากรรมแปลกๆ เด่นๆ มาตั้ง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ จุดเช็คอินใหม่ การถ่ายรูป เผยแพร่ ถ้าคนเห็นแล้วถูกใจก็จะมาตามๆ กัน เป็นอีกวิธีที่สร้างชื่อ สร้างคุณค่าให้สถานที่นั้นๆ เพิ่มขึ้น

    4. สะท้อนเรื่องราวบางอย่างของสังคม ผ่านชื่อนิรนาม คนสมัยนี้ชอบแสดงความเห็น ไม่ว่าจะเป็นในเฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ ยูทูป กระทู้พันทิป ทุกที่ที่เราสามารถจะแสดงออกได้ ซึ่ง Street Art หรือ Graffiti เองก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่คนใช้แสดงความคิดเห็น เสียดสี (แถมมาก่อนยุค โซเชียลรุ่งเรืองด้วยซ้ำไป) หรือการแสดงตัวตน วาดรูปความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง


    ที่มา :  Sgeprint

    Comments

    Popular posts from this blog

    สีพาสเทล คืออะไร โค้ดสีพาสเทลยอดนิยม!

    ขนาดกระดาษ A4 และขนาดอื่นๆที่ควรรู้!

    แปลง YouTube เป็น MP3 ง่ายนิดเดียว!