Skip to main content

Infographic คือ อะไรและมีกี่ประเภท?

    Infographic คือ อะไรและมีกี่ประเภท?

    ทุกคนรู้ไหมคะว่าคนเราสามารถจดจำรูปภาพที่เห็นครั้งแรก ได้ถึง 80% เหลือเพียง 20% ที่เก็บไว้จำสิ่งที่อ่าน แสดงให้เห็นว่าคนเราไม่สามารถจำเรื่องยากๆ ได้ ถ้ามันมีแต่ตัวหนังสือ (ลองคิดถึงตอนอ่านหนังสือสอบ ที่อ่านเท่าไรก็จำไม่ได้ดูสิ) และนี่คือเหตุผลที่หลายคนสงสัยว่า Infographic คือ หรือทำไมมันเป็นคอนเท้นต์ที่มีอิทธิพลอย่างมาก มันไม่ได้โดดเด่นแค่รูปภาพสวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นวิธีการบอกเล่าเรื่องราวได้ภายในพริบตาเดียว

    ทั้งนี้แบรนด์ที่ทำ Infographic ของตัวเอง จะมีโอกาสดึงดูดผู้บริโภคให้เข้าเว็บไซต์ได้ถึง 12% ดังนั้น ถ้าคุณกำลังจะเริ่มต้นทำ วันนี้ SGEPRINT ขอนำความรู้เกี่ยวกับ Infographic จากข้อมูล สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย มาให้ทุกคนทราบแล้ว มาดูกันว่าคุณต้องเตรียมอะไรบ้าง…

    Infographic คือ กระบวนการจัดการ และนำเสนอข้อมูลต่างๆ ที่ซับซ้อนให้เรียบง่าย และสามารถเข้าใจได้ด้วยภาษาภาพ ทั้งนี้เพราะธรรมชาติของคนส่วนใหญ่ชอบดูรูปภาพมากกว่าอ่านตัวหนังสือ โดยเปรียบเทียบแล้วรูปภาพนั้นสามารถเล่าเรื่องได้ดีกว่าข้อความ หรือมีอำนาจในการอธิบายได้มากกว่า ไม่เพียงในแง่การสร้างความเข้าใจเท่านั้น แต่ยังให้ความน่าเชื่อถือแก่ผู้นำเสนอหรือองค์กรที่ใช้ Infographic ด้วย


    ประเภทของอินโฟกราฟิกส์ โดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 3 ประเภท

    1) แบบภาพนิ่ง (Static infographics) เช่น แผ่นพับ โปสเตอร์ หนังสือภาพ หรือเป็นส่วนหนึ่งในบทความในนิตยสารหรือหนังสือพิมพ์ ภาพกราฟิกประกอบข่าวโทรทัศน์ ฯลฯ ซึ่งพร้อมส่งต่อในสื่อดิจิทัลได้ง่าย เช่น การส่งอีเมล การนำไปใช้ประกอบบทความในเว็บไซต์ การส่งต่อใน Social Media เช่น LINE, Facebook, Instagram เป็นต้น อินโฟกราฟิกส์ประเภทนี้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงเนื้อหา

    2) แบบมีปฏิสัมพันธ์ (Interactive infographics) เหมาะกับการบรรยายข้อมูลที่มีปริมาณมากและซับซ้อน ผู้อ่านสามารถดูข้อมูลเชิงลึก เพิ่มเติมได้ ผู้สร้างชิ้นงานสามารถเปลี่ยนแปลงเนื้อหาหรือปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบันได้

    3) แบบภาพเคลื่อนไหว (Motion graphic) เป็นการสร้างภาพกราฟิกให้มีการเคลื่อนไหวได้ในหลายมิติ แตกต่างจากแอนิเมชัน (animation) ตรงที่ไม่มีตัวละครเป็นตัวดำเนินเรื่อง หรือมีบทพูด และตัดฉากสลับเหมือนภาพยนตร์ แต่จะเป็นการสร้างการเคลื่อนไหวให้กราฟิก และใช้การพากย์เสียงบรรยายประกอบ แม้ว่าอินโฟกราฟิกส์ประเภทนี้ จะมีประสิทธิภาพมากที่สุด เนื่องจากสามารถดึงดูดให้ผู้ชมรู้สึกมีส่วนร่วม ได้มากกว่าแบบภาพนิ่ง และแบบมีปฏิสัมพันธ์โต้ตอบได้ แต่การออกแบบ ชิ้นงานจะยากขึ้น ต้องใช้เครื่องมือเพิ่มขึ้น หมายความว่าค่าใช้จ่ายในการสร้างชิ้นงานจะเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว


    ทำไมจะต้องเป็น 
    Infographic?

    • เพราะเวลานั้นมีค่า ปัจจุบันเป็นยุคที่ผู้คนมีความเร่งรีบ ต้องการความรวดเร็ว การรับรู้ข้อมูลก็เช่นกัน ทุกคนอยากใช้เวลาในการรับรู้ข้อมูลไม่นาน แต่สามารถเข้าใจได้เลย Infographic จึงตอบโจทย์นี้ได้เป็นอย่างดี 👉 เพราะข้อมูลมากมาย และน่าเบื่อเกินที่จะอ่าน หลายๆ ครั้งข้อมูลที่ต้องการนำเสนอออกไป มีเนื้อหามากมาย ใช้เวลาในการอ่านก็นาน รวมถึงใช้เวลาในการนำเสนอก็นาน หากผู้นำเสนอยังคงใช้วิธีการนำข้อความมาเรียงใส่ โดยไม่มีการย่นย่อหรือสรุปข้อมูล การที่ผู้ชมต้องดูงานนำเสนอลักษณะนั้นก็ไม่แตกต่างกับการอ่านข้อความในกระดาษ
    • เพราะ Infographic เป็นงานศิลปะประเภทหนึ่ง นอกจากการนำเสนอด้วย Infographic จะทำให้ใช้เวลาในการอ่านไม่นาน เข้าใจได้ง่ายแล้ว ภาพที่ใช้ประกอบใน Infographic การจัดวางองค์ประกอบต่าง ๆ ก็มีความสวยงาม สามารถดึงดูดใจให้ผู้ชมหันมาอ่าน หันมาดู แค่เพียงความสวยงามก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว เอาชนะงานนำเสนอแบบตัวหนังสือได้สบาย


    เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับ รูปแบบ Infographic เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะช่วยให้ผู้อ่านได้เพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับ Infographic มากยิ่งขึ้น และสามารถนำไปปรับใช้ในงาน Infographic ของคุณ เพื่อให้เป็น Infographic ที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น 🙏 วันนี้ขอตัวลาไปก่อน ไว้พบกันใหม่ในบทความหน้านะคะ  

    ที่มา : Sgeprint

    Comments

    Popular posts from this blog

    สีพาสเทล คืออะไร โค้ดสีพาสเทลยอดนิยม!

    ขนาดกระดาษ A4 และขนาดอื่นๆที่ควรรู้!

    แปลง YouTube เป็น MP3 ง่ายนิดเดียว!